วิธีทำการตลาดบน Facebook

www.likesmes.com
ถ้าพูดถึงการทำการตลาดผ่าน Social Network แล้วล่ะก็ Facebook เป็น เว็บที่มีเครื่องมือในการทำการตลาดที่มีคนกล่าวถึงและทรงพลังมากที่สุด ซึ่งในวันนี้ หากใครปฏิเสธ หรือตามไม่ทัน ก็เตรียมม้วนเสื่อกลับบ้านได้เลย จริงใหมคะ แต่ก่อนที่จะทำการโปรโมท หรือนำเสนออะไรออกไปบน Facebook จะต้องศึกษาเครื่องมือต่างๆ ที่ Facebook มีให้สำหรับใช้ทำการตลาดให้ดีก่อน ไม่อย่างนั้นแล้ว อาจจะเป็นผลเสียต่อธุรกิจได้  ซึ่งมีตัวอย่างจากหลายๆ ธุรกิจที่พยายามจะใช้ Facebook ในการหาคน ขายสินค้า หรือขยายเครือข่าย เรามาดูวิธีการ ทำตลาดบน facebook ที่ได้ผลมากกันได้เลยค่ะ
การทำตลาดบน Facebook แบบผิดวิธี
Wall Spam   คนกลุ่มนี้จะนำข้อความโปรโมทธุรกิจ/สินค้า ไปโพสโปรโมทบนกระดานข้อความของผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของ
Tag Spam
   คนกลุ่มนี้จะใช้รูปภาพสาวน่ารักๆ บ้าง รูปคนถือเงินบ้าง ถ่ายรูปคู่กับรถหรูบ้าง ฯลฯ อัพโหลดขึ้นไปบน Profile ของตน แล้วติด Tag ชื่อเพื่อน
 การทำ SPAM บน Facebook   ภาพสะท้อนจะติดลบทันที ผู้คนจะรำคาญสิ่งที่คุณทำ ไม่พอใจ หรือถึงขั้นโพสต์ด่า 
Facebook Marketing  แบบถูกวิธี
การใช้งาน facebook ขั้นพื้นฐาน
ประเภทการใช้งานของ facebook แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลักๆ คือ
1. Profile
2. Group หรือ กลุ่ม
3. Fanpage

1. Profile
Profile การใช้งานของ Profile โดยทั่วๆ ไปจะเป็นการใส่ข้อมูล การอัพเดตข้อมูลของบุคคล ความเคลื่อนไหวของสังคมออนไลน์จากเพื่อน แฟน ญาติพี่น้อง คนที่คุณสนิท คนรู้จัก กลุ่ม หรือสังคมที่คุณเข้าไปมีส่วนร่วม โดยคุณหรือเพื่อนของคุณสามารถแชร์ หรือแบ่งปันข้อมูลไม่ว่าจะเป็นไฟล์ภาพ เสียง ข้อความ การโหวต ให้ความชอบ (Like) ในความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนหน้า Wall
หน้าหลักของ facebook ในส่วนของ Profile การแสดงข้อมูลจะขึ้นตามการโพสต์ของที่เพื่อนๆ ของเราได้มีกิจกรรม (Activities) ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบน Wall จะมีลักษณะตามรูปด้านล่าง
Profile แบบเก่า
Profile แบบเก่า
facebook กำลังจะมีการอัพเดตหน้าตาแบบเดิม เป็นแบบใหม่ หรือที่เรียกว่าเป็น Timeline ตามรูปด้านล่าง
Timeline
Timeline

ซึ่งจะมีความชัดเจนในเรื่องความเคลื่อนไหวของเราเองในการทำกิจกรรมต่างๆ ส่วนตัวของเราบน facebook ซึ่ง Timeline นี้เราสามารถย้อนดูเหตุการณ์ต่างๆ ย้อนหลังได้ และเราสามารถใส่ข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญของเราเพิ่มเติมได้
2. Group
 มีหลักๆ ด้วยกัน 3 รูปแบบคือ
1. กลุ่มเปิด (Open) – สามารถทำการค้นหาด้วยระบบค้นหา (Search) สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกได้
ทุกคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มสามารถเห็นสมาชิกที่อยู่ในกลุ่ม และข้อความของทุกคนที่ Post ได้
2. กลุ่มปิด (Closed) – สามารถทำการค้นหาด้วยระบบค้นหา (Search) ได้ คนภายนอกสามารถรู้ได้ว่ามีใครอยู่ในกลุ่ม แต่มีเพียงสมาชิกเท่านั้นที่ สามารถเห็นข้อความที่ Post ได้
3. กลุ่มลับ (Secret) – กลุ่มไม่สามารถทำกรค้นหาด้วยระบบค้นหา สมาชิกเท่านั้นที่จะเห็นคนทุกคนภายในกลุ่มและข้อความของเพื่อนสมาชิกด้วยกัน เท่านั้น
วิธีการสร้างกลุ่ม มีดังนี้
1. ไปที่ http://www.facebook.com/bookmarks/groups
2. กดปุ่ม คำว่า Create Group ก็จะมีหน้าต่างขึ้น
• ตรง “ชื่อ กลุ่ม (Group Name)” ใส่ชื่อที่ต้องการสร้าง
• สมาชิก (Members) เพียงแค่เ่ราพิมพ์ตัวอักษร ระบบจะทำการขึ้นชื่อให้เ้ราเลือกเลยว่า เราจะชวนใครเขา้ มาเป็นสมาชิก
• ความเป็นส่วนตัว (Privacy) มีดังนี้ ความเป็นส่วนตัวของ facebook Groups  มีด้วยกัน 3 รูปแบบคือ กลุ่มเปิด (Open), กลุ่มปิด (Closed), กลุ่มลับ (Secret) การนำไปประยุกต์ใช้ ดังนี้
กลุ่มเปิด – กลุ่มนี้เหมาะสำหรับกลุ่มที่เปิดกว้าง เปิดเผย อาจจะมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ กิจกรรมของกลุ่มเป็นหลัก เช่น กลุ่มชมรมคนรักดนตรี กลุ่มชมรมคนชอบ Harry Potter ฯลฯ

กลุ่มปิด
– กลุ่มนี้เหมาะสำหรับกลุ่มที่อยากคัดสรรคน หรือต้องการเพียงสมาชิกที่ไม่ได้จำกัดในวงกว้างจนเกินไป การมุ่งเน้นในกลุ่ม อาจจะเพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดี อาจจะมีกิจกรรมที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวให้กับสมาชิกในกลุ่ม เช่น กลุ่มคนรักรถ Ferrari, กลุ่มคนชอบนาฬิกา Swatch ฯลฯ

กลุ่มลับ
– กลุ่มนี้เหมาะสำหรับการทำงานภายในหน่วยงาน หรือองค์กร  การใช้งานเหมาะสำหรับการติดตามงานภายในเท่านั้น ไม่ต้องการให้บุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวข้องเลยเข้ามาเป็นสมาชิก มีประโยชน์ อย่างมากช่วยลดขั้นตอนการติดตาม(งาน) สามารถเขียนข้อความไปยังสมาชิกในกลุ่ม นำเสนอ และทำให้บรรลุเป้าหมายได้โดยเร็ว
3. fanpage

ถ้าต้องการจะประชาสัมพันธ์แบรนด์/ธุรกิจ/สินค้า ออกไปในวงกว้าง  Page มี ความเหมาะสมมากที่สุดในการประชาสัมพันธ์ เพราะ Page จะมีเครื่องมือในการทำ Marketing อยู่หลายอย่างด้วยกัน เช่น ใครที่มากด Like ใน Page ก็เรียกว่าเป็น Fan Page โดยที่สามารถมี Fan Page ได้ไม่จำกัดจำนวน และยังสามารถส่งข้อความอัพเดท สินค้า/บริการ/ข่าวสาร ให้กับ Fan Page พร้อมๆ กันได้อีกด้วย สามารถลงโฆษณา Pay-Per-Click (PPC) ใน Facebook เพื่อให้ผู้คนรู้จัก Page เพื่อเพิ่มปริมาณ Fan Page ได้ Facebook Page สามารถ ติด Search Engine ได้ ผู้คนสามารถมองเห็นหน้า Page ของคุณได้โดยไม่ต้อง Login เข้า Facebook ซึ่งเหมาะที่จะใช้ในการประชาสัมพันธ์ในวงกว้างสู่สาธารณะ  มีกราฟแสดงสถิติต่างๆ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ และปรับปรุงการตลาดให้ดีขึ้น


เครดิต คุณ Wanvisa  http://www.km-web.rmutt.ac.th/ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

0 ความคิดเห็น